ความสำเร็จของ TikTok

TikTok จนทุกวันนี้คงยังไม่ต้องอธิบายว่า TikTok คืออะไร เป็นแพลตฟอร์มวิดีโอสั้นจากประเทศจีนที่ก้าวขึ้นสู่อันดับหนึ่ง ตามมาด้วย Facebook แพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย และ YouTube แพลตฟอร์มวิดีโอออนไลน์อันดับหนึ่ง ต้องยอมรับว่า “TikTok คือคู่แข่ง” นี่เป็นตัวบ่งชี้ความสำเร็จของ TikTok ได้ชัดเจนกว่าจำนวนการดาวน์โหลด เวลาการใช้งานแอปต่อวันหรือจำนวนสมาชิกบนแพลตฟอร์ม

“เกิดอะไรขึ้น?” นั่นอาจเป็นคำถามที่ทุกคนสงสัยและคาดเดา เนื่องจากบริษัทเทคโนโลยีจากจีนจะได้รับความนิยมแซงหน้าบริษัทเทคโนโลยีจากสหรัฐฯ มันเกินความคาดหมาย โดยเฉพาะในธุรกิจซอฟต์แวร์ ต่างจากธุรกิจฮาร์ดแวร์ จีนยังคงมีข้อได้เปรียบในด้านต้นทุนการผลิต

TikTok อะไรคือความแตกต่าง

TikTok บริษัทชั้นนำของโลกต่างขับเคี่ยวกันเพื่อขึ้นสู่เบอร์หนึ่งของการเป็นผู้นำในโลกโซเชียลเน็ตเวิร์ค โดยมีหัวหอกสำคัญคือ

Facebook ที่เขี่ยผู้ท้าชิงเจ้าต่างๆ ออกไป ไม่ว่าจะเป็น Snapchat ที่ถูก Facebook ตีด้วยฟีเจอร์ Story หรือ LinkedIn ที่ถูก Microsoft ซื้อไปทำตลาดเฉพาะทางจนหลุดจากความเป็นคู่แข่งของ Facebook ไปเอง หรือ Instagram ที่ Facebook ใช้วิธีซื้อมาเสียเลย

Google ที่ดันตัวเองอย่างไรก็ไม่ขึ้น ทั้ง Google+ และ Google Buzz หรืออีกหลายความพยายามของ Google ที่พยายามเข้ามากินส่วนแบ่งตลาดของโซเชียลเน็ตเวิร์ค แต่ก็ทำได้เพียงแค่เปิดตัวยิ่งใหญ่อยู่ทุกครั้งไป แล้วก็ค่อย ๆ หายไปอย่างเงียบ ๆ

และโซเชียลเน็ตเวิร์คอีกหลายเจ้า ที่หายไปจากการแข่งขันของตลาด เช่น Gorilla 4square MySpace สิ่งนี้ทำให้เห็นว่า ตลาดโซเชียลเน็ตเวิร์คไม่ใช่ของที่ใครจะเข้ามากินส่วนแบ่งได้ง่าย ๆ โดยเฉพาะในระดับ Global แต่เราเห็นแล้วว่า TikTok ทำได้

แล้ว TikTok ทำยังไง

TikTok ทำยังไงถึงขึ้นมาตีทั้ง Facebook และ YouTube ได้ ด้วยระบบเดียว แต่ก่อนจะไปดูว่า TikTok ทำยังไง มาดูก่อน ว่าคู่แข่งจากทั้ง Google (แพลตฟอร์มวิดีโอ) และ Facebook (แพลตฟอร์มโซเชียลเน็ตเวิร์ค) มีปฏิกิริยาตอบสนองต่อคู่แข่งอย่างไร

Facebook เปิดตัวระบบวิดีโอสั้น ด้วยวิถีของ Facebook ที่ชอบทำมาโดยตลอด คือการลอก (แม้จะดูไม่แฟร์ แต่สิ่งนี้เราพบได้บ่อยมาก ๆ ในโลกของธุรกิจซอฟต์แวร์) หรือพูดง่ายๆ คือ การลอกฟีเจอร์นั่นเอง และ Facebook ก็ใช้วิธีลอกฟีเจอร์มาโดยตลอด ไม่ว่าจะเป็น Timeline (ลอกจาก Twitter ตอนที่ซื้อไม่สำเร็จ) Story (ลอกจาก Snapchat) Hashtag และ Mention (ลอกจาก Twitter) Check-in ลอกจาก 4Square แล้วก็ถึงคิวที่จะลอก TikTok โดย Facebook ออกระบบวิดีโอสั้นแนวตั้งในชื่อ Reel โดยมีทั้งใน Facebook และ Instagram

Google เองก็รับมือสิ่งที่เกิดขึ้นด้วยการรองรับระบบวิดีโอสั้นแนวตั้ง ในชื่อ Short แม้ว่า YouTube จะเกิดขึ้นมาด้วยคอนเซ็ปต์ที่ว่า วิดีโอที่ดูได้ทุกแพลตฟอร์ม (ในยุคก่อนที่จะเกิด YouTube โลกอินเทอร์เน็ตมีปัญหาในเรื่องของฟอร์แมตวิดีโอเป็นอย่างมาก เพราะมันมีความหลากหลายเสียจนหามาตรฐานไม่ได้ และ YouTube อาศัย Pain Point นี้ในการเกิดมา โดยการสร้างแพลตฟอร์มที่แปลงทุกวิดีโอไม่ว่าจะเป็นฟอร์แมตอะไรให้กลายเป็น Flash ที่สามารถดูได้จากคอมพิวเตอร์ทุกเครื่อง) และปรับตัวเข้าสู่การเป็นช่องทีวี

ที่เน้นรูปแบบของวีดีโอที่มีลักษณะเป็นรายการโทรทัศน์ ดังนั้นการปรับเปลี่ยน YouTube ให้รองรับคลิปสั้นในรูปแบบของ TikTok ที่มีความเป็นโฆษณาสั้น และมีรูปแบบคลิปเป็นแนวตั้ง มากกว่าที่จะเป็นรายการโทรทัศน์ที่มีคลิปยาวเป็นแนวนอน นี่จึงเป็นความท้าทาย และเปลี่ยนทิศทางของ YouTube อย่างมาก ซึ่งจะต้องปรับตัวทั้งแพลตฟอร์มและ Creator แต่เมื่อโลกมาในทิศทางนี้ นี่จึงเป็นสิ่งที่ Google เองก็ไม่อาจปฏิเสธได้

จะเห็นว่าทั้งสองเจ้าใหญ่ใช้วิธีดึงคนด้วยการออกมารองรับระบบวิดีโอสั้นแนวตั้งแบบเดียวกับ TikTok แต่บอกเลยว่า สิ่งที่ทำให้ TikTok เกิด ไม่ใช่วิดีโอสั้นแต่อย่างใด

กลับมาดูว่า TikTok ทำอะไร

TikTok เกิดขึ้นจากการทำตัวเป็นแพลตฟอร์มวิดีโอสั้นประกอบเพลง เพื่อบอกเล่าเรื่องราวแบบสั้น ๆ ผ่านคลิปวิดีโอ แต่สิ่งที่เกิดขึ้นคือ สาว ๆ ที่มายืนเต้นประกอบเพลง ทำให้เกิดคลื่นลูกใหญ่ของการเสพสาวเซ็กซี่ (เข้าไปดูสาวใน TikTok) และเมื่อมีคนดู คนที่ชอบการแสดงออกก็ยิ่งทำคอนเทนต์ลงไป คนดูก็ยิ่งมีของให้ดูมาก และสิ่งสำคัญที่สุดที่ทำให้ TikTok โตมาก ๆ คือการที่เข้าแล้วออกไม่ได้

TikTok จะนำเสนอคลิปผ่านการคัดเลือกจาก AI ลองสังเกตพฤติกรรมของคนที่ไถ TikTok นะครับ เราจะบอกตัวเองว่า เดี๋ยวดูคลิปหน้าอีกคลิปนึงจะออกแล้ว แล้วพอเราดูคลิปถัดไป มันก็ยังเป็นคลิปที่ถูกใจอยู่ แล้วเราก็จะดูต่อไป เพื่อรอว่าพอเจอคลิปที่ไม่ถูกใจแล้วค่อยออก การออกจาก TikTok จึงเป็นไปได้ยาก และเป็นสาเหตุให้แพลตฟอร์มมีจำนวนคนที่อยู่ในระบบ และยอดวิวของวิดีโอค่อนข้างสูง

สิ่งที่ Facebook และ YouTube ไปไม่ถึง

TikTok สิ่งที่ Facebook และ YouTube ไม่มีเหมือนที่ TikTok มี ไม่ใช่ระบบคลิปสั้น แต่สิ่งที่ TikTok มี คือ User Journey ที่ผู้ใช้สามารถใช้งานได้แม้ไม่รู้หนังสือ

คนที่เล่น TikTok จะสังเกตเห็นว่า ในระบบมีเด็กน้อยอยู่เป็นจำนวนมาก นั่นเพราะ TikTok สามารถใช้งานได้ในทันที ไม่ว่าจะเป็นการดูคลิปที่ถูกใจ เปลี่ยนคลิป ลงคลิป คอมเมนต์คลิป (กด Speech to Text) การใช้งานทั้งหมดนี้ไม่จำเป็นต้องรู้หนังสือเลย ในขณะที่การจะใช้งาน Facebook จะต้องสมัครสมาชิกด้วยอีเมล พิมพ์ชื่อนามสกุล พิมพ์ชื่อเพื่อนเพื่อเพิ่ม และการใช้งานหลัก ๆ คือการสื่อสารด้วยตัวอักษร รวมถึง YouTube เองก็เช่นกัน ที่การจะคอมเมนต์ได้ต้องสมัครสมาชิกซึ่งมีความยุ่งยากกว่า TikTok และการจะหาคลิปที่ถูกใจในครั้งแรกจะต้องเกิดจากการกดเข้าไปตามเมนูต่างๆ ไปจนถึงการพิมพ์เพื่อค้นหา

 

บทความแนะนำ